ลุยเส้นทาง อ.แม่สอด-อ.อุ้มผาง จ.ตาก

ภาพนี้ ถ่ายภาพจากภายใน นิสสันมาร์ช บริเวณ ห้วยน้ำริน ที่อยู่ลึกลงไป ในเหวด้านล่าง เป็นหน้าผาตัดชันลงไป กะด้วยสายตา ลึกเกือบ 100 เมตร

เส้นทาง แม่สอด-อุ้มผาง หรือทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1090 แคบ สูงชัน 1219 โค้ง ระยะทาง 168 กิโลเมตร บางช่วงต้องลากเกียร์ 1 ระยะทางเป็นกิโลเมตร ผมเดินทาง ไปกลับภายในวันเดียว ด้วยนิสสัน มาร์ช สบายๆ

รันอิน Nissan March

ผมได้รับ Nissan March ที่จองไว้ เมื่อปลายเดือน เมษายน 2553 ในช่วงรันอิน 1,000 กม. แรก ได้เริ่มใช้รถเดินทางระหว่างจังหวัด กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และ เพชรบูรณ์ เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเรียบ มีเส้นทางขึ้นเขา คดเคี้ยว เป็นบางช่วง ผลการใช้ Nissan March ช่วงรันอิน พอจะแจกแจง ได้ดังนี้

ผลการใช้ Nissan March แยกตามลักษณะเส้นทาง

1. การใช้ Nissan March ในเมือง

การออกตัวของ Nissan March ต้องเลี้ยงคลัชช่วยนิดหน่อย การขับขี่ในเมือง ความเร็ว 40-60 กม/ชม นิ่มนวล ดี เปลี่ยนเกียร์สะดวก หาที่จอดได้ง่าย บางที่แคบนิดเดียว Nissan March ยังเข้าจอดได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

2. การใช้ Nissan March เส้นทางระหว่างจังหวัีด ทางเรียบ

เส้นทางที่ใช้รันอิน Nissan March มีทั้ง 2 เลน และ 4 เลน ความเร็วที่ใช้ 60-90 กม/ชม อัตราเร่งของ Nissan March ดีเกินความคาดหมาย ไม่คิดว่า เครื่องขนาดแค่ 1,200 ซีซี จะอัตราเร่งดีขนาดนี้ การขับขี่ทางไกลนิ่มนวล แต่ไม่นิ่มจนรถโยกเยก ช่วงล่างของ Nissan March หนึบดี เกาะถนนเป็นเยี่ยม ระบบเบรคปกติ แม้เวลาฝนตก เมื่อขับเข้าใกล้ หรือสวนทางกับ รถยนต์ ที่มีขนาดใหญ่กว่า ก็แทบไม่มีผล ทำให้ขับขี่ Nissan March ได้ตามสบาย ไม่ต้องกังวล

3. การใช้ Nissan March เส้นทางระหว่างจังหวัด ทาง ขึ้น-ลง เขา

เขาที่ขับ Nissan March ผ่าน คือ เขารัง บนเส้นทาง พิจิตร-อ.ชนแดน-เพชรบูรณ์ เป็นเขาที่มีลักษณะ สูงชัน พอประมาณ ระยะทางคดเคี้ยว ยาว 13 กม. โดยขับผ่าน ไป-กลับ 2 เที่ยว (คนละ วัน เวลา) บางครั้งบนเขามีฝนตก Nissan March ขึ้นเขาได้ดีเกินคาด เกาะโค้งดีเยี่ยม แม้เวลาฝนตก การลงเขาด้วยเกียร์ต่ำ ช่วยให้มีความปลอดภัยดี ไม่ต้องใช้เบรคมากจนเกินไป

ผลการใช้ Nissan March แยกตามชนิดเชื้อเพลิง
1. น้ำมันเบนซิน 91 อัตราเร่งดีสุด ระยะทาง/ลิตร ดีสุด
2. น้ำมันแก๊ซโซฮอล์ 91 อัตราเร่งแทบไม่แตกต่าง ระยะทาง/ลิตรน้อยกว่า
3. น้ำมันแก๊ซโซฮอล์ E20 อัตราเร่งแทบไม่แตกต่าง ระยะทาง/ลิตรแย่สุด

ผู้ใช้ Nissan March แต่ละคนควรทดสอบตามสภาพใช้งานของตนเอง ว่าควรใช้เชื้อเพลิงชนิดใด จึงจะประหยัดที่สุด

ผมรันอิน  Nissan March 1,000 กม. แรก เสร็จภายในสัปดาห์เดียว พอดูในคู่มือรถแนะนำให้รันอิน 1,600 กม. (ไม่รู้พิมพ์ผิดหรือเปล่า) ผมก็ปฎิบัติตาม จึงรันอิน Nissan March ต่อจนครบ 1,600 กม.ตามคู่มือ ช่วงรันอินก็ไม่ได้ใช้เทคนิคในการขับขี่อะไรพิเศษ ที่ผมเน้นคือ

1. พยายามขับขี่ Nissan March เดินทางไกลให้ครบระยะ 1,000-1,600 กม.ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

2. ไม่ออกตัว Nissan March  อย่างรุนแรง ไม่เร่งความเร็วรอบเกิน 4,000 รอบ/นาที

3. เปลี่ยนความเร็วในการขับขี่ Nissan March ทุกๆ 5 นาที (โดยประมาณ)

ผมทำแค่นี้เองครับ ครบระยะ 1,000 กม. ก็นำ Nissan March เข้าศูนย์ถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ แค่นี้เองที่ผมทำ หลังจากรันอิน ก็ใช้ Nissan March ตามปกติ

ทำไมถึงเลือก Nissan March

เมื่อประมาณปลายปี 2552 ผมกำลังมองหารถคันใหม่ มาใช้แทนคันเดิม จึงเริ่มค้นทางอินเตอร์เนต โดยมีแนวคิดว่า จะหารถยนต์ขนาดเล็ก มาใช้งาน แทนคันเดิม ที่เป็นปิ๊คอัพ แค็บ ซึ่งขนาดใหญ่เกินไป สำหรับผม ที่โดยส่วนใหญ่ จะใช้รถเดินทาง เพียงคนเดียว เห็นมีหลายยี่ห้อ แต่ที่เริ่มสะดุดความคิดคือ ข่าวที่ ทาง Nissan จะผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรือ Eco Car ออกมาจำหน่ายประมาณเดือน มีนาคม 2553 โดยใช้ชื่อรุ่น Nissan March โดยเป็นการย้ายฐานการผลิต จากญี่ปุ่นมาไทย อาจมีการปรับแต่งรายละเอียดบ้าง เพื่อให้เข้ากับสเปค Eco Car ที่ทางรัฐบาลไทย กำหนดไว้ หลังจากนั้น ผมจึงเริ่มติดตามข่าวสารของ Nissan March มาอย่างต่อเนื่อง และจองทันที ที่ทาง Nissan เปิดจองรุ่น March เมื่อประมาณเดือน กุมภาพันธ์ 2553

เหตุผลหลักๆ ที่ตัดสินใจเลือก  Nissan March มีดังนี้

1. เป็นรถที่เข้าโครงการณ์ Eco Car ของรัฐบาล ทำให้ภาษีสรรพสามิตถูกลง Nissan March เสียภาษีสรรพสามิตเพียง 17% ในขณะที่รถยนต์รุ่นอื่นที่ใกล้เคียงกัน เสียภาษีสรรพสามิต 25-30% รวมทั้งภาษี ชิ้นส่วน อะไหล่ ที่ถูกกว่า จึงทำให้ Nissan March มีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด Nissan March ราคาเริ่มต้นเพียง 375,000 บาท

2. Nissan March เป็น  Eco Car ที่ผลิตจากค่ายยักษ์ใหญ่ เป็นเจ้าแรก ถ้ารอเจ้าอื่น ต้องรออีกไม่ต่ำกว่า 1 ปี ศูนย์บริการของ Nissan มีอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ Nissan March ได้เปรียบเรื่องนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์ยี่ห้ออื่น ที่มีราคาใกล้เคียงกัน

3. Nissan March ผ่านข้อกำหนดอื่นๆ ของ Eco Car เช่น การประหยัดน้ำมัน 20 กม/ลิตร มาตรฐานความปลอดภัย และ มาตรฐานไอเสีย

4. Nissan March สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ตั้งแต่น้ำมันเบนซิน 91 แก๊ซโซฮอล์ 91 ไปจนถึง E20 เป็นการประหยัดค่าเชื้อเพลิง ลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ในอนาคต สามารถดัดแปลงไปใช้ E85 ได้ไม่ยาก

5. Nissan March ได้รับการยอมรับในญี่ปุ่น มาก่อนแล้ว ถึงแม้เมื่อมาผลิตที่เมืองไทย อาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดไปบ้าง ก็ไม่มาก

6. Nissan March ไม่ใช่รถยนต์ที่ขนาดเล็กเกินไป Nissan March ไม่ใช่รถยนต์ที่ใช้ในเมืองเพียงอย่างเดียว Nissan March มีขนาดใหญ่เพียงพอ สามารถใช้เดินทางระหว่างจังหวัดได้อย่างสะดวกสบาย

จากเหตุผลดังกล่าว ผมจึงมั่นใจในคุณภาพของ Nissan March จึงจอง ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เห็นตัวรถจริง เลยแม้แต่ครั้งเดียว เห็นแต่รูป และข้อมูล ในอินเตอร์เนต เท่านั้น ผมเลือก Nissan March รุ่น 1.2 MT ราคา 425,000 บาท สีส้ม ได้รับรถปลายเดือน เมษายน 2553 และผมก็ไม่ผิดหวัง รถสวย ภายในกว้างขวางกว่าที่คิด ที่นั่งสะดวก สบาย ทั้งตอนหน้า และ ตอนหลัง ติดตามรายละเอียดการใช้รถ ในโพสต์ต่อไปครับ

ปัจจุบันของผู้เขียนบล็อคนี้

แชมป์สุดยอดนักขับประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร ของเชลล์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แชมป์เอเซียประเภททีม (ตัวแทนประเทศไทย) สุดยอดนักขับประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร ของเชลล์ 

สนามเซปัง กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

เวปของผู้เขียน

เรื่องโซลาร์เซลล์

http://www.phetgreenenergy.com/